เตาอบไม้สัก
กระบวนการผลิตประตูไม้สักที่ครบวงจร
โรงงานประตูไม้สัก วู๊ดแพร่ มีความเชี่ยวชาญในกระบวนการผลิตที่ครบวงจร ตั้งแต่การคัดเลือกและแปรรูปไม้สักด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย โรงงานยังมีเตาอบไม้ที่ได้มาตรฐานระดับสูง เพื่อให้มั่นใจว่าไม้สักที่ใช้ผลิตนั้นจะแห้งสนิท ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้ประตูไม้บิด เบี้ยว หรือหดตัวเมื่อใช้งานในระยะยาว
การอบไม้สักของโรงงานวู๊ดแพร่ใช้อุณหภูมิระหว่าง 90-95 องศาเซลเซียส (ซึ่งต่ำกว่าจุดเดือดของน้ำที่ 100 องศา) เพื่อให้ความร้อนกระจายทั่วถึงและสม่ำเสมอ ส่งผลให้ไม้สักแห้งสนิท การอบไม้ในอุณหภูมินี้ยังช่วยคงสภาพความแข็งแรงและลวดลายธรรมชาติของไม้สักไว้ได้อย่างสวยงาม การใช้เทคโนโลยีและคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญจากคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำให้กระบวนการนี้สามารถควบคุมคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การอบไม้ถือเป็นระบวนการที่สำคัญ ที่จะช่วยเพิ่มคุณภาพของไม้ ช่วยลดความชื้นในเนื้อไม้ และช่วยปรับปรุงคุณภาพ ลดการบิดงอ แตกร้าว การยืดหดตัวของไม้ก่อนที่จะนำไปผลิต
เตาอบไม้ของทางร้านเป็นเตาอบที่ได้มาตรฐาน จัดสร้างขึ้นและได้รับคำปรึกษาแนะนำ ควบคุมดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จาก รศ.ทรงกลด จารุสมบัติ คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการอบไม้โดยตรงทำให้ไม้ที่ได้มีคุณภาพสูงสุด ตรงตามมาตรฐานการใช้งาน
เตาอบไม้ของเรามีระบบการควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ ด้วยระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ โดยใช้ไม้ท่อนในการเผาทำความร้อนให้ระบบดูดความร้อนเข้าไปในเตาและภายในเตาอบยังมีระบบพัดลมช่วยควบคุมความร้อนภายในให้หมุนเวียนได้ทั่วถึง เพื่อให้ไม้อบแห้งที่มีคุณภาพและแห้งเท่ากันทุกชิ้น
การเลือกใช้ไม้สักที่ผ่านการอบแห้งด้วยเตาอบ จะได้ไม้ที่มีคุณภาพช่วยให้เกิดความมั่นใจ ในความทนทานและความสวยงามของไม้ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพและประสิทธิภาพการใช้งานของไม้ได้อย่างลงตัว
ข้อดีของการอบไม้ด้วยเตาอบ
1.ไม้แห้งสนิทและคงรูปได้ดี ด้วยความชื้นที่คงเหลือเพียง 8-15% ทำให้ไม้มีการยืดหดตัวน้อยลงและคงรูปได้ดียิ่งขึ้น จึงมั่นใจได้ว่าไม้จะไม่บิดงอน้อยลงเมื่อใช้งาน
2. เพิ่มความแข็งแรงและทนทาน การอบไม้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อไม้ ทำให้ไม้สักสามารถรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้ดี และลดปัญหาการเสื่อมสภาพของเนื้อไม้ได้
3. จะได้ไม้ที่มีน้ำหนักเบา เมื่อผ่านการอบไม้จนแห้งสนิท ไม้จะมีน้ำหนักเบาลง
4. การอบไม้จะช่วยให้เนื้อไม้มีการดูดซึมความชื้นน้อยลง ทำให้สะดวกต่อการนำไปผลิต ติดตั้งและขนย้ายได้สะดวกยิ่งขึ้นส่งผลให้ไม้ไม่อ่อนตัวหรือบวมในสภาพอากาศชื้น ทำให้ผลิตภัณฑ์ไม้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น
การจัดเตรียมวัตถุดิบไม้ที่แปรรูปแล้ว ก่อนเข้าเตาอบจะมีการการเรียงไม้ถูกต้องในแนวเดี่ยวกัน เพื่อให้ไม้ได้รับความร้อนอย่างทั่วถึง
ระยะเวลาการอบไม้ ทางร้านจะใช้เวลาในการปิดอบ 10 วัน 10 คืน ควบคุมตั้งอุณหภูมิด้วยระบบไฟฟ้า จากอุณหภูมิต่ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ตามตารางวัดค่าความชื้น โดยการใช้ไม้ท่อนเผาเพื่อให้ได้ความร้อน ที่ระบบสามารถดูดความร้อนเข้าภายในเตาอบได้
การวัดค่าความชื้นของไม้ด้วยเครื่องวัดมาตรฐาน
เครื่อง RC-1E ใช้วัดค่าความชื้นของไม้อบแห้ง
การปรับปุ่ม Selector Switch (ลูกบิดสีดำ) เพื่อเช็คค่าความชื้นตามระดับ
– บิดไปที่ Range A เมื่อต้องการอ่านค่าความชื้น ช่วงระหว่าง 25 – 60 %
– บิดไปที่ Range B เมื่อต้องการอ่านค่าความชื้น ช่วงระหว่าง 11 – 25 %
– บิดไปที่ Range C เมื่อต้องการอ่านค่าความชื้น ช่วงระหว่าง 6 – 11 %
เพื่อให้ได้ไม้ที่มีคุณภาพ เมื่ออบไม้เสร็จครบตามกำหนดระยะเวลาแล้ว จะมีการตรวจเช็คค่าความชื้นด้วยเครื่องวัดความชื้นไม้ที่ได้มาตรฐาน
โดยตรอกเครื่องมือวัดเข้ากึ่งกลางของไม้ จะได้ค่าความชื้นที่แม่นยำตรงตามช่วงกำหนดค่าความชื้นนั้นๆ
การวัดค่าความชื้นนี้สำคัญต่อการผลิตประตูไม้สักที่ทนทานต่อการใช้งาน หากใช้ไม้ที่ความชื้นสูงไปผลิตประตู โอกาสที่ประตูจะแตกหรือบิดงอได้ง่ายมีสูงมาก การอบไม้จึงเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับ เนื่องจากช่วยทำให้ไม้มีอายุการใช้งานยาวนาน ทนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และรักษารูปทรงของไม้ให้คงทนมากที่สุด
การวัดค่าความชื้นของไม้ที่อบแห้งเรียบร้อย
การวัดค่าความชื้นของไม้อบแห้งที่ผลิตเป็นบานประตูเรียบร้อยแล้ว
การอบไม้ให้แห้งดี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าความชื้นสมดุลย์ ซึ่งไม้แต่ละประเภท ใช้ค่าความชื้นสัมพันธ์ไม่เหมือนกัน ความเร็วลมภายในห้อง ต้องเพียงพอต่อการอบไม้ ถ้าไม่พอความแห้งของไม้แต่ละจุดก็ไม่เท่ากัน การจัดเรียงไม้ ก็ต้องถูกวิธีให้ทิศทางลม เพื่อการกระจายความร้อนได้ทั่วถึงตัวไม้
ความสำคัญของเตาอบไม้สักในกระบวนการผลิต ที่โรงงานผลิตประตูไม้สัก ของเราให้ความสำคัญกับกระบวนการอบไม้ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ประตูไม้สักทุกบานที่ผลิตออกมามีคุณภาพ ทั้งในแง่ของความแข็งแรง คงทน และความสวยงาม การเลือกใช้ไม้ที่มีค่าความชื้นเหมาะสมและผ่านการอบอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ประตูไม้สักมีอายุการใช้งานยาวนาน พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการในการตกแต่งบ้าน