ประตูบานเลื่อนไม้ ขั้นตอนการติดตั้ง ทำได้เองไม่ยาก!
ประตูบานเลื่อนไม้ กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมในบ้านยุคใหม่ เพราะนอกจากจะประหยัดพื้นที่แล้ว ยังให้ความรู้สึกทันสมัย และมีเสน่ห์แบบธรรมชาติ โดยเฉพาะประตูไม้สักบานเลื่อน ที่ทั้งแข็งแรงและสวยงาม แต่หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้าจะติดตั้งเอง ต้องเริ่มต้นอย่างไร? ขั้นตอนการติดตั้งประตูไม้บานเลื่อน อย่างครบถ้วน!

ทำความรู้จักประตูบานเลื่อนไม้ก่อนติดตั้ง
ประตูบานเลื่อนไม้ คือประตูที่ใช้รางเป็นกลไกในการเปิด-ปิด โดยตัวประตูจะเลื่อนไปตามราง ซึ่งอาจเป็นรางบน, รางล่าง หรือทั้งสองแบบ โดยวัสดุที่นิยม ได้แก่ ไม้จริง เช่น ไม้สัก ที่มีความทนทานสูง เหมาะสำหรับใช้งานระยะยาว
เริ่มต้น เตรียมอุปกรณ์และเครื่องมือให้พร้อม
ก่อนเริ่ม ติดตั้งประตูไม้บานเลื่อน จำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์ให้ครบถ้วน เพื่อให้การทำงานราบรื่น
1. รายการอุปกรณ์พื้นฐาน
รายการ | หน้าที่/ใช้เมื่อไร | สเปกหรือขนาดที่แนะนำ |
---|---|---|
ประตูไม้บานเลื่อน | แผงประตูหลัก | ไม้สักอบแห้ง หนา 35–36 มม.,ขนาดนิยม 80×200, 90×200, 100×200 ซม. |
วงกบประตูบานเลื่อน | โครงยึดรางเลื่อน และประตู | ไม้เนื้อแข็ง วงกบตรง ระดับฉากดี |
รางเลื่อน (บน/ล่าง) | รับน้ำหนัก/เป็นแนวเลื่อน | รางบนเป็นหลัก, เลือกอลูมิเนียม |
ล้อเลื่อน/ลูกรอก | ความลื่น–เงียบ | เลือกรองรับน้ำหนักบาน 60 – 100 กิโล, ปรับน็อตล้อให้ได้ระดับ |
สว่านไฟฟ้า & ไขควง | เจาะยึดราง/ ตัวล็อค | สว่านกระแทก,ดอกเจาะไม้ |
ดินสอ & ตลับเมตร | วัด/ทำเครื่องหมาย | ตลับเมตร 3–5 ม., ดินสอช่าง |
ระดับน้ำ/เลเซอร์ | ตั้งแนวรางให้ตรง | เลเซอร์ไลน์/ระดับน้ำที่เที่ยงตรง |
น็อตยึดราง | ยึดราง/เพลทล้อ | ตามที่แถมมาในกล่อง (เช่น 30–40 ซม.) |
ตัวล็อกประตู | ล็อก/ปิดปลอดภัย | รองรับความหนาบาน 35–36 มม. |
กบไฟฟ้า | ปรับขนาดประตู | ใบคม สภาพดี |
สกรู พุก+สกรู เกลียวปล่อย | ยึดราง/อุปกรณ์ | ขนาด/ความยาวตามวัสดุ (คอนกรีตใช้พุก+สกรู, ไม้ใช้สกรูปลายสว่าน) |
ค้อน | ตอกลิ่ม | ค้อนยาง/ค้อนเหล็ก |

2. วัดขนาดพื้นที่ติดตั้งให้แม่นยำ
ขั้นตอนนี้สำคัญมาก เพราะหากวัดพลาด ประตูจะไม่ลงตัวหรือใช้งานไม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีวัดขนาด:
-
วิธีที่ 1 ดูจากแบบบ้านที่ออกแบบไว้ วัดความกว้างและความสูงของช่องประตู จะได้ช่องวงกบออกมา คือวงนอก สำหรับพื้นที่จะยึดกับปูน แจ้งสั่งชื้อ วงกบ และบานประตูไม้จากผู้ผลิต วิธีนี้จะง่ายกว่า

-
วิธีที่ 2 หากกำหนดประตูไม้เป็นหลัก ให้เผื่อพื้นที่บนของประตูคู่กลาง 6 ซม.ไว้สำหรับใส่ชุดรางเลื่อน ( ประตูคู่ข้างที่ปิดตายช้ายขวา จะสูงกว่าคู่กลางประมาณ 6ซม ) ตัวอย่างเช่น คู่กลาง 90×200 คู่ข้างประมาณ 80×208 (208ฝังในบังไบวงกบ บนล่างอย่างละ 1 ซม.)
-
หากวัดแบบวิธีที่ 2 ต้องรู้ก่อนวงกบไม้ หนาเท่าไร บางที่ไม่เท่ากัน เช่น ขนาด 2×4 นิ้ว จะเหลือไม่เต็ม เช่น 4.5 x 9.5 ซม.ต้องสอบถามแหล่งที่ชื้อมาด้วย ถึงจะได้ขนาดที่ชัดเจน

3. ติดตั้งชุดวงกบ
การติดตั้งชุดวงกบ แยกออกเป็น 2 แบบ แบบยกทั้งแผงประตูไปยึดติดตั้ง และ แบบเอาชุดวงกบยึดกับปูนก่อน แล้วปรับบานใส่ที่หลัง มีข้อดีข้อเสียยังไง ดังนี้
3.1) ยกทั้งแผง (วงกบ+บาน+ฮาร์ดแวร์) ไปยึดติดตั้งทีเดียว
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
งานจบไวเพราะเซ็ตมาจากโรงงานแล้ว | ยกหนัก ต้องมีพื้นที่และทางยกเพียงพอ |
คุมฉาก/ระดับได้ดีตั้งแต่ต้น จากผู้ชำนาญ | เสี่ยงถลอก/กระแทกระหว่างขนทั้งชุด |
งานเนียน เก็บสี/รอยต่อเล็กน้อย | ถ้าต้องแก้ ต้องถอดทั้งชุด ปรับยาก |
ปรับตั้งหลังติดน้อย ครั้งเดียวจบ | |
ลดโอกาสประกอบสลับฝั่ง |
3.2) ยึดวงกบกับปูนก่อน แล้วค่อยใส่/ปรับบานทีหลัง
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
หากติดวงกบไม่ดี แก้ช่องเปิดเบี้ยวได้ง่าย | ใช้เวลามากกว่าเป็นขั้นตอนไป |
ยกเบา ปลอดภัยกับบานและหน้างาน | ต้องกลับมาใส่บานรอบสอง มีขั้นตอนเพิ่ม |
ปรับละเอียดภายหลังง่าย (บาน/ล้อ/End stop) | ถ้าคุมฉากวงกบไม่ดีตั้งแต่แรก อาจต้องรื้อแก้หมด |
ลดความเสี่ยงบานเสียหายช่วงขนส่ง | หากไม่ใช่ช่างไม้โดยตรงงาน งานอาจะไม่ละเอียด |
ตัวอย่างชุดประตูแบบเลื่อนยกแผง เตรียมจัดส่ง

ตัวอย่างชุดประตูแบบเลื่อนจัดส่งเเบบยกชุดประกอบไปเลย

3.3 วิธีการ ติดตั้งวงกบ ยกทั้งแผง
3.3.1 นำวงกบมาแยกเป็นชิ้น ประกอบตามแบบที่ นำชุดรางเลื่อนและล้อมาใส่วงกบตัวบนจะยิงอัดง่ายกว่าใส่หลังประกอบ หากติดตั้งแบบมีรางล่างขุดเจาะก่อนประกอบ ( ดูหัวข้อที่ 4 ) จับให้ได้ฉากแล้วใช้ตะปูเกลียวปล่อย ยิงยึดหัวละสองจุด ให้ได้เป็นกรอบ4 เหลี่ยมให้เท่ากัน วิธีวัดฉากได้หรือไม่ได้ อาจเช็คด้วยการวัดมุมทะแยงก็ได้ โดยใช้ตลับเมตรได้ วัดเสร็จเรียบร้อย ใช้ไม้ยึดล็อควงกบ ไม่ให้โยกย้ายได้
3.3.2 เสร็จยกตั้งกับพื้นที่เรียบๆ ระดับเท่ากัน ตรงนี้สำคัญ หรืออาจจะหาโครงเหล็ก มาวางก่อนและใช้ระดับน้ำจับให้ได้เท่ากัน หากไม่เท่ากันอาจทำวงกบหย่อนไม่ได้ฉากได้ ทำให้เวลาติดตั้งบานเช็คการเลื่อนได้ยาก เพราะพื้นที่ไม่เท่ากัน


4. ติดตั้งรางประตูเลื่อน
รางถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบประตูเลื่อน ต้องติดตั้งอย่างมั่นคงและตรงระดับ
ก่อนประกอบวงกบบานเลื่อน แนะนำใส่ชุดรางเลื่อนและชุดล้อก่อน ( แนะนำใส่กันชนบานเลื่อน เพิ่มอีก 2 ตัว ตัวละ 70 บาท จะกันทั้งหน้าและหลัง ) เพื่อง่ายต่อการวัดระยะ และการอัดตะปูเกลียวได้สะดวก การวัดระยะการห่างของประตูปิดตายซ้ายขวา ขึ้นอยู่กับความหนาของบานประตู และแบบประตูเรียบหรือไม่ หากมีคิ้วประตูออก ระยะห่างก็ต้องออกไปตามความหนาของคิ้วประตู
ตัวอย่างระยะห่างรางเลื่อนและประตู
ตัวอย่างราง เช่น ประตูไม้หนา 3.6 ซม รางเลื่อนกว้าง3 ซม แบ่งครึ่ง = 1.5 ซม. (ระยะห่าง 0.5 มิล ) =3.6/2= 1.8 + 0.5 = 2.3 ซม
4.1.สำหรับประตูไม่มีคิ้วทั้ง 2 บาน ให้วัดจากวัดจากบานปิดตาย 2.3 ซม.เพื่อวางรางเลื่อน
4.2.สำหรับประตูมีคิ้วฝั่งเดี่ยวให้วัดจากวัดจากบานปิดตาย 3.3 ซม. (กรณ๊คิ้วหนา 1 ซม.)
4.3.สำหรับประตูที่มีคิ้วทั้ง 2 บาน ให้วัดจากวัดจากบานปิดตาย 4.3 ซม.(กรณ๊คิ้วหนา 1 ซม.)
4.4 หากติดตั้งแบบมีล่าง ให้วัดเท่ากับไม้ด้านบนที่ใส่รางเลื่อน ของจุดศูนย์กลางรางเลื่อน
หมายเหตุ ขึ้นอยู่กับความหนาของบานคู่กลางด้วย ความหนาเท่าไรหาร 2 ก็จะได้จุดศูนย์กลางของรางเลื่อน
รางล่าง ควรใส่หรือไม่
จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ปกติส่วนใหญ่จะไม่ใส่ เพราะในกล่องชุดล้อจะมี ตัวเดือยกันแกว่งให้ 1 ชิ้น ปกติวิธีติดตั้ง จะเชาะกรอบบานประตูด้านล่างเกือบสุดกรอบ เหลือไม่ให้ทะลุประมาณ 1 ซม เพื่อความสวยงาม ข้อดีความสะอาดง่าย แต่ข้อเสียเรื่องความแข็งแรงบานแกว่งอยู่พอสมควร ทางเราจะแก้ไข โดยใส่รางล่าง โดยจะชื้อตัวกันแกว่งเพิ่มอีก 2 ชิ้นใส่บานละ 2 ชิ้น (ชิ้นละ 20 บาท) เพื่อการเลื่อน ลดการแกว่งได้มา แต่ข้อเสีย ต้องทำความสะอาดรางเป็นประจำ



5. ปรับขนาดของประตู ใส่อุปกรณ์ ยกประตูขึ้นราง

ตัวอย่างขนาดจริง คู่กลาง 90×200 คู่ข้าง 80×208 ซม เป็นประตูมีคิ้วนูนออกมาทั้งคู่
ขั้นตอนปรับบานให้ได้ขนาด
ปกติบานประตูที่สั่งผลิต จะเผื่อให้ประมาณ 1 ซม เช่น สั่ง 90×200 ประตูที่ได้จะประมาณ 91×201 เพื่อที่จะให้ช่างปรับประตูให้ได้ฉากเท่าๆกัน วิธีปรับบานให้เท่ากัน วัดจากคิ้วของกรอบบาน บนสุดล่างสุดให้เท่ากัน จากนั้นขีดเส้นตรงเพื่อที่จะปรับใสออก ก่อนปรับใส่ให้วัดความกว้างความสูงให้ได้ขนาด และ กรอบบานซ้ายขวาต้องเท่ากันเพื่อความสวยงาม
เจาะใส่อุปกรณ์ ตัวล็อด มือจับ
หลังจากปรับบานประตูได้ขนาดตามต้องการแล้ว นำประตูมาเจาะใส่ตัวล็อค โดยใช้ตัวเจาะเฉพาะ แบบประหยัดก็ใช้ โฮลซอเจาะลูกบิด ชุดดอกสว่านใบพาย และดอกขุดเราเตอร์
ส่วนตัวแขวน ก็จะใช้เราเตอร์ หรือถ้ามี ทริมเมอร์ แนะนำใช้เบากว่า ขุดลึกให้เท่ากับความหนาของตัวแขวนของรางเลื่อน หรือจะไม่ขุดใส่เลยก็ได้ เพราะสุดท้ายมีบังรางปิดอยู่ไม่เห็น ขั้นตอนนี้ไม่ทำก็ได้
ติดตั้งแบบมีล่าง เดือยกันแกว่ง ต้องขุดเจาะให้เท่าความหนาของเดือย ใส่2 ตัวเพื่อเพิ่มความแข็งแรง
ยกบานเข้ายึดกับวงกบ
เช็คความเรียบร้อยแล้ว ตั้งวงกบให้ได้ฉาก ยึดให้ล็อคแน่เรียบร้อย ยกบานปิดตายเข้ายึดกับวงกบ โดยใช้ตะปูเกลียวปล่อย ยาว 2 นิ้วยึดให้แน่น ระยะห่างประมาณ 20 – 25 ซม. ยกบานคู่กลางแขวน กับชุดล้อในรางเลื่อน ใช้ประแจเบอร์ 13 ปรับสูงตำให้พอดี แล้วลองเลื่อนไปมา

เจาะใส่ตัวล็อค ด้วย ชุดดอกสว่านใบพาย และดอกขุดเราเตอร์

6. ตรวจสอบและบำรุงรักษา
หลังติดตั้งเสร็จ ควรตรวจสอบรายละเอียดสุดท้าย
-
ตรวจความเรียบร้อยของรางและล้อ กันชนบานเลื่อนอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
-
ลองใช้งานซ้ำหลายครั้งเพื่อความมั่นใจ
-
ใช้น้ำมันหล่อลื่นลูกรอกหากมีเสียงดัง
-
ตรวจสอบทุก 6 เดือนเพื่อความทนทาน
การแก้ไขปัญหา ช่องของบานเลื่อน
ประตูที่มีคิ้วนูน มาทั้ง 2 บานมักจะเจอปัญหาช่องระยะห่าง สมควร แก้ไขด้วย คิ้วกันแมลงแบบแปรง
สรุป ติดตั้งประตูบานเลื่อนไม้ไม่ยาก ถ้าเตรียมตัวให้ดี
การติดตั้ง ประตูบานเลื่อนไม้ ด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณมีเครื่องมือครบ ความรู้พื้นฐาน และความตั้งใจ โดยเฉพาะหากเลือกใช้ ประตูไม้สักบานเลื่อน ที่ทั้งสวยงาม แข็งแรง และเพิ่มคุณค่าบ้านในระยะยาว
ไม่ว่าคุณจะตกแต่งบ้านใหม่ หรือรีโนเวทพื้นที่เดิม ประตูบานเลื่อนเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งความงามและฟังก์ชันแน่นอน
หากต้องการซื้อประตูไม้สักบานเลื่อนจากโรงงานโดยตรง หรือต้องการช่างติดตั้งมืออาชีพ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่:
📞 โทร: 091-859-8786
📲 Line ID: @wp246
✅ เปลี่ยนมุมบ้านให้สวยขึ้น ด้วยประตูไม้บานเลื่อนที่คุณติดตั้งเองได้!